วันจันทร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2552

สัปดาห์ที่ 5 asciicode และ Mouse

AMPHA LAVICHAI
1000001010110010000010100001001010000010 00110010100000100110101010010010

อำภา ลาวิชัย
10110011110010110000001101001011 1010001101001011111100011001010111000101101000011


เมาส์คืออะไร
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับชี้พิกัดบนหน้าจอว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์ต้องการเลือกทำงานบนตำแหน่งใดๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ตัวนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ คอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกและรวเมาส์คืออะไร
อุปกรณ์ที่ใช้สำหรับชี้พิกัดบนหน้าจอว่าผู้ใช้คอมพิวเตอร์ต้องการเลือกทำงานบนตำแหน่งใดๆ ที่ปรากฏบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์ตัวนี้ทำให้ผู้ใช้สามารถใช้ คอมพิวเตอร์ได้อย่างสะดวกและรวดเร็วยิ่งขึ้น (สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ 2549)
เมาส์ (mouse) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมการใช้งานในคอมพิวเตอร์ชิ้นหนึ่ง ซึ่งออกแบบเพื่อให้พอดีกับการใช้งานโดยส่วนโค้งและส่วนเว้าโค้งเข้าตามกับอุ้งมือของผู้ใช้ โดยภายด้านใต้ของเมาส์จะมีอุปกรณ์ซึ่งตรวจจับการเคลื่อนไหวของเมาส์ โดยส่งสัญญาณไปที่คอมพิวเตอร์เพื่อแสดงผลของเคอร์เซอร์ (cursor) บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เมาส์ได้ชื่อมาจากรูปร่างของตัวมันเอง และสายไฟ ซึ่งมีลักษณะคล้ายหนูและหางหนู และขณะเดียวกันการเคลื่อนที่ของเคอร์เซอร์ (cursor) บนหน้าจอมีลักษณะการเคลื่อนที่ไม่มีทิศทางเหมือนการเคลื่อนที่ของหนู (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี 2549)
เมาส์ (Mouse) หรือ "หนูอิเล็กทรอนิกส์" เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายหนู มีสายต่ออยู่ที่ปลายลักษณะเดียวกับหางหนู เมาส์จะช่วยในการบ่งชี้ตำแหน่งว่าขณะนี้กำลังอยู่ ณ จุดใดบนจอภาพ เรียกว่า ตัวชี้ตำแหน่ง (Pointer) ซึ่งอาศัยการเลื่อนเมาส์ แทนการกดปุ่มบังคับทิศทางบนคีย์บอร์ด (keyboard) (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ 2549)
เมาส์ เป็นอุปกรณ์พื้นฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ นำเข้าข้อมูลโดยการเลื่อนเมาส์เพื่อบังคับตัวชี้ไปยังตำแหน่งต่าง ๆ บนหน้าจอและทำการคลิก (click) หรือ ดับเบิลคลิก (double click)
ดเร็วยิ่งขึ้น (สำนักงานศาลยุติธรรม สำนักเทคโนโลยีสารสนเทศ 2549)
เมาส์ (mouse) คืออุปกรณ์ที่ใช้ในการควบคุมการใช้งานในคอมพิวเตอร์ชิ้นหนึ่ง ซึ่งออกแบบเพื่อให้พอดีกับการใช้งานโดยส่วนโค้งและส่วนเว้าโค้งเข้าตามกับอุ้งมือของผู้ใช้ โดยภายด้านใต้ของเมาส์จะมีอุปกรณ์ซึ่งตรวจจับการเคลื่อนไหวของเมาส์ โดยส่งสัญญาณไปที่คอมพิวเตอร์เพื่อแสดงผลของเคอร์เซอร์ (cursor) บนหน้าจอคอมพิวเตอร์ เมาส์ได้ชื่อมาจากรูปร่างของตัวมันเอง และสายไฟ ซึ่งมีลักษณะคล้ายหนูและหางหนู และขณะเดียวกันการเคลื่อนที่ของเคอร์เซอร์ (cursor) บนหน้าจอมีลักษณะการเคลื่อนที่ไม่มีทิศทางเหมือนการเคลื่อนที่ของหนู (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี 2549)
เมาส์ (Mouse) หรือ "หนูอิเล็กทรอนิกส์" เป็นอุปกรณ์ที่มีลักษณะคล้ายหนู มีสายต่ออยู่ที่ปลายลักษณะเดียวกับหางหนู เมาส์จะช่วยในการบ่งชี้ตำแหน่งว่าขณะนี้กำลังอยู่ ณ จุดใดบนจอภาพ เรียกว่า ตัวชี้ตำแหน่ง (Pointer) ซึ่งอาศัยการเลื่อนเมาส์ แทนการกดปุ่มบังคับทิศทางบนคีย์บอร์ด (keyboard) (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ 2549)
เมาส์ เป็นอุปกรณ์พื้นฐานของเครื่องคอมพิวเตอร์ที่สำคัญ นำเข้าข้อมูลโดยการเลื่อนเมาส์เพื่อบังคับตัวชี้ไปยังตำแหน่งต่าง ๆ บนหน้าจอและทำการคลิก (click) หรือ ดับเบิลคลิก (double click)

กำเนิดของเมาส์
เมาส์ถูกประดิษฐ์ขึ้นในปี 1963 โดยดักลัส เองเกลบาท (Douglas Engelbart) ที่สถาบันวิจัยสแตนฟอร์ด (Stanford Research Institute) หลังจากการทดสอบการใช้งานอย่างละเอียด (เมาส์ เคยมีอีกชื่อหนึ่งว่า “บัก” (bug) แต่ภายหลังได้รับความนิยมน้อยกว่าคำว่า “เมาส์”) มันเป็นหนึ่งในการทดลองอุปกรณ์ชี้ (Pointing Device) สำหรับ Engelbart's oN-Line System (NLS) ส่วนอุปกรณ์ชี้อื่นออกแบบมาเพื่อการเคลื่อนไหวในร่างกายส่วนอื่น ๆ เช่น อุปกรณ์ที่ใช้ติดกับคางหรือจมูก แต่ท้ายที่สุดแล้วเมาส์ก็ได้รับการคัดเลือกเพราะง่ายต่อการใช้งาน (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี 2549)
ดักลาส เองเกลบาทเมาส์คอมพิวเตอร์ตัวแรก
เมาส์ตัวแรกนั้นเทอะทะและใช้เฟือง 2 ตัววางในลักษณะตั้งฉากกัน การหมุนของแต่ละเฟืองจะถูกแปลให้เป็นการเคลื่อนที่บนแกนในปริภูมิ 2 มิติ เองเกลบาท ได้รับสิทธิบัตรเลขที่ US3541541 ในวันที่ 17 พฤศจิกายน 1970 ชื่อ X –Y Position Indicator For A Display System (การระบุตำแหน่ง X –Y สำหรับระบบแสดงผล) (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี 2549)
เมาส์คอมพิวเตอร์ตัวแรก โดย ดักลาส เองเกลบาทแสดงการทำงานของล้อหมุนของเมาส์
เมาส์แบบต่อมาถูกประดิษฐ์ในช่วงต้นทศวรรษที่ 1970 โดย บิล อิงลิช (Bill English) ที่ศูนย์วิจัยของบริษัท ซีรอกส์ (Xerox PARC) โดยแทนที่ล้อหมุนด้วยลูกบอลซึ่งสามารถหมุนไปได้ทุกทิศทาง การเคลื่อนไหวของลูกบอลจะถูกตรวจจับโดยล้อเล็กๆ ภายในอีกทีหนึ่ง เมาส์ชนิดนี้คล้าย ๆ กับแทร็กบอล (Track ball) และนิยมใช้กับคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล ตลอดทศวรรษที่ 1980 และ 1990 ทำให้การใช้เมาส์และคีย์บอร์ดในเวลาเดียวกันสามารถเป็นจริงได้ (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี 2549) ในปี ค.ศ. 1987 มีการปรับปรุงลักษณะภายนอกของเมาส์ ให้มีลักษณะมน มีปุ่ม 2 ปุ่ม ซึ่งกล่าวได้ว่ามีลักษณะคล้ายก้อนสบู่
และในปี ค.ศ. 1989 เมาส์ได้พัฒนามาถึงขั้น Trackball หรือ BallPoint ซึ่งเป็นเมาส์ที่ผู้ใช้เลื่อนลูกบอลด้วยนิ้ว คือ เอาลูกบอลมาไว้ด้านบนเป็น Trackball อันแรกที่ใช้กับ Laptops จากนั้นจึงพัฒนาจนสามารถใช้งานกับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ จนช่วงที่คอมพิวเตอร์ Laptops ได้รับความสนใจจึงสร้าง Touch Pad หรือ Touch mouse ขึ้นในปี ค.ศ. 1995 เป็นเมาส์ที่ไม่มีลูกบอลหรือลูกกลิ้งเป็นส่วนประกอบแต่จะมีตัวเซ็นเซอร์การกดของนิ้ว ซึ่งเมาส์ประเภทนี้ยังคงใช้กับคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะในปัจจุบันด้วย
ต่อมาก็มีการพัฒนาเมาส์ไร้สาย (Cordless mouse) มีหลายประเภท เช่น อินฟราเรด ต่อในปี ค.ศ.1997 เมาส์คลื่นวิทยาจึงได้ถูกพัฒนาขึ้นและมีรูปร่างหน้าตาที่แปลกออกไป จนในปี ค.ศ. 1997 การประดิษฐ์เมาส์ได้รับการพัฒนาอย่างมากในด้านของคุณภาพการใช้งานและความสะดวกสบายต่อผู้ใช้มากขึ้น เช่น รูปร่างของเมาส์มีความสะดวกในการสัมผัสมากขึ้นและพัฒนาให้สามารถใช้งานได้กับอินเทอร์เน็ตโดยมีตัวเลื่อน (Scroller) อยู่บนเมาส์ เพื่ออำนวยความสะดวกในการเลื่อนหน้าจอ และในอนาคตเมาส์จะมีการพัฒนาให้มีความสะดวกในการใช้และการติดตั้งระหว่างอุปกรณ์Input กับ Bios ของเครื่องคอมพิวเตอร์และมีการพัฒนาไปใช้ระบบสัญญาณแบบดิจิทัลในการทำงานมาก เมาส์ในปัจจุบันได้รับรูปแบบมาจาก ?cole polytechnique f?d?rale de Lausanne (EPFL) ภายใต้แรงบันดาลใจของ ศาสตราจารย์ Jean-Daniel Nicoud ร่วมกับวิศวกรและช่างนาฬิกาชื่อ Andr? Guignard ซึ่งการดำเนินงานครั้งนี้ทำให้เกิดบริษัท โลจิเทค (Logitech) ผลิตเมาส์ที่ได้รับความนิยมสูงเป็นยี่ห้อแรก (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี 2549



การทำงานของเมาส์
ส่วนประกอบภายใจของเมาส์โดยทั่วไปจะเป็นลูกบอลยางทรงกลม ซึ่งทำมาจากลูกเหล็กและหุ้มยางเอาไว้ เพื่อให้ลูกบอลยางมีน้ำหนักและติดหนึบกับแผ่นรองเมาส์ นอกจากนั้นยังมีลูกกลิ้งทรงกระบอก 2 อัน วางตัวในแนวตั้งฉากกัน สำหรับใช้ในการระบุทิศทางและตำแหน่งการเคลื่อนที่ในแนว ซ้าย-ขวา บน-ล่าง (แกน X , Y) ที่ปลายของลูกกลิ้งทั้งสองจะมีแผ่นพลาสติกสีดำลักษณะเป็นแผ่นวงกลมแบนบางเจาะช่องสี่เหลี่ยมหลายช่องตามแนวรัศมีของวงกลมและมีอุปกรณ์ตรวจจับแสง (photo detector) ติดกับอุปกรณ์ตรวจจับแสงจะประกอบด้วย LED จะมีสวิตซ์ของปุ่มคลิกเมาส์และแผงวงจรควบคุมไมโครคอนโทรเลอร์(Micro controller) ซึ่งจะทำหน้าที่รับสัญญาณจากสวิตซ์และอุปกรณ์รับแสงเพื่อแปลงเป็นสัญญาณข้อมูลสำหรับอินเทอร์เฟส (Interface) กับคอมพิวเตอร์
การทำงานของเมาส์ คือ การเลื่อนเมาส์ ลูกบอลยางก็จะหมุนกลิ้งไปตามทิศทางของเมาส์ที่เลื่อนไปซึ่งการหมุนของลูกบอลยางจะมีผลให้ลูกกลิ้งหมุนตามได้ด้วยในแนวแกน (X , Y) ซึ่งการหมุนของลูกกลิ้งก็จะส่งผลให้แผ่นพลาสติกกลมที่ปลายหมุนตามไปด้วยเช่นกัน การหมุนของแผ่นพลาสติกทำให้แสงจาก LED ที่อุปกรณ์รับแสงได้รับแตกต่างกันไปตามมุมองศาของการหมุนตัวรับแสงก็จะส่งสัญญาณที่แตกต่างกันไปให้กับไมโครคอนโทรลเลอร์ (Micro controller) ทำให้รู้ได้ว่าขณะนี้มีการเคลื่อนตำแหน่งของเมาส์ไปในทิศทางและระยะทางเท่าใด(สหัสญา บุญสวัสดิ์ 2543 : 68-69)
เมาส์ประกอบด้วย ลูกกลิ้งที่ติดตั้งอยู่ด้านล่าง และมีปุ่มกดควบคุม (ตั้งแต่ 1 - 3 ปุ่ม) การใช้เมาส์จะนำเมาส์วางไว้บนพื้นราบ และเลื่อนเมาส์ไปในทิศทางที่ต้องการ บนจอภาพจะปรากฏ สัญลักษณ์ชี้ตำแหน่ง เรียกว่า "Mouse Pointer" (มักจะเป็นรูปลูกศรเฉียงซ้าย) เมื่อต้องการจะทำงานใดๆ ก็ทำการกดปุ่มเมาส์ ตามหลักการใช้เมาส์ คอมพิวเตอร์จะรับสัญญาณ และทำการประมวลผลต่อไป (keyboard) (ศูนย์เทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์และคอมพิวเตอร์แห่งชาติ 2549)


วิธีการใช้เมาส์
เซนเซอร์อ่านค่า และส่งเป็นค่าของความเร็วการเคลื่อนไหวในแนวแกน X และแกน Y
วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี (2549) ได้สรุปวิธีการใช้เมาส์ได้ดังนี้
Single clicking
เป็นการอินพุตที่ง่ายที่สุด โดยหมายรวมทั้งการกดปุ่มบนเมาส์ชนิดปุ่มเดียวและชนิดหลายปุ่ม โดยหากเป็นเมาส์ชนิดหลายปุ่ม จะเรียกการคลิกนี้ตามตำแหน่งของปุ่ม เช่น คลิกซ้าย, คลิกขวา
Double-click
ดับเบิ้ลคลิกคือการกดปุ่ม 2 ครั้งติดต่อกันอย่างเร็ว ใน Macintosh Finder การคลิกจะเป็นการเลือกไฟล์ ส่วนการดับเบิ้ลคลิกนั้นจะเป็นการเปิดไฟล์ อย่างไรก็ดีการดับเบิ้ลคลิกนี้จะยากสำหรับผู้ที่มีปัญหาด้านการเคลื่อนไหวของนิ้วมือ เมาส์แบบหลายปุ่มนั้นสามารถที่จะเซ็ทให้ปุ่มใดปุ่มหนึ่งทำงานเหมือนการดับเบิ้ลคลิกด้วยการคลิกครั้งเดียวได้ และ OS ในปัจจุบันสามารถที่จะกำหนดช่วงสูงสุดที่จะคลิกปุ่ม 2 ครั้งให้เป็นดับเบิ้ลคลิกได้
Triple-click
ทริปเปิ้ลคลิกเป็นการกดปุ่ม 3 ครั้งติดต่อกันอย่างรวดเร็วใช้มากที่สุดใน word processors และใน web browsers เพื่อที่จะเลือกข้อความทั้งย่อหน้า
Chords
คอร์ดส์ คือการคลิกปุ่มตั้งแต่ 2 ปุ่มพร้อมกัน ซึ่งไม่ค่อยได้ใช้งานนัก ใน X Windows system การกดปุ่มซ้ายและขวาพร้อมกันจะมีผลเหมือนกับการกดปุ่มกลาง
Click-and-drag
คือการกดปุ่มบน object ค้างไว้แล้วลากไปที่ที่ต้องการ Mouse gestures mouse gesture เป็นวิธีการผสมผสานการเลื่อนและการคลิกเมาส์ ซึ่งซอฟต์แวร์ที่จะใช้ได้จะต้องจดจำคำสั่งพิเศษต่าง ๆ เหล่านี้ได้ เช่นในโปรแกรมวาดภาพ การเลื่อนเมาส์ในแนวแกน X อย่างรวดเร็วบนรูปร่างใด ๆ จะเป็นการลบรูปร่างนั้น
Right Click
คือการคลิกเมาส์ปุ่มขวา คือ การคลิกเมาส์ที่ปุ่มขวาหนึ่งครั้ง ใช้เพื่อเปิดเมนูย่อยขึ้นมา นิยมใช้ในการเปิดโปรแกรม Windows


ประเภทของเมาส์
1.Cordless
เมาส์ที่ใช้คลื่นวิทยุแทนการใช้สายในการเชื่อมต่อ (computer hope 1998-2006)
2.Foot mouse
แทนที่จะใช้นิ้วมือกด ก็ใช้เท้ากดแทน (วิกิพีเดีย สารานุกรมเสรี 2549)
3.Glide point
จะเป็นแผนสี่เหลี่ยมที่วางอยู่หน้าแป้นพิมพ์ สามารถใช้นิ้ววาดเพื่อเลื่อนตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพเช่นเดียวกับเมาส์ เหมือนกับ Touch pad (computer hope 1998-2006)
ตัวอย่าง Glide point
4.IntelliMouse หรือ Wheel mouse
มีล้อหมุนใช้สำหรับเลื่อนได้ เป็นชื่อเรียกเมาส์ของ Microsoft (computer hope 1998-2006)
5.J mouse
ใช้แป้นพิมพ์ J แทนการควบคุมการเลื่อนตำแหน่งโดยมีปุ่มข้างล่างอีก 2 ปุ่มอยู่ใกล้กับแป้น Space bar เพื่อคลิก (click) ซ้าย-ขวา ใช้สำหรับคอมพิวเตอร์แบบพกพา ปัจจุบันไม่ใช้แล้วเนื่องจากไม่สะดวกในการใช้งาน (computer hope 1998-2006)
6.Joy stick
เป็นก้านสำหรับใช้โยกขึ้นลง / ซ้ายขวา เพื่อย้ายตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพ มีหลักการทำงานเช่นเดียวกับเมาส์ แต่จะมีแป้นกดเพิ่มเติมมาจำนวนหนึ่งสำหรับสั่งงานพิเศษ นิยมใช้กับการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์หรือควบคุมหุ่นยนต์ (บีคอม [ม.ป.ป.])
รูปตัวอย่าง Joy stick แบบต่าง ๆ
7.Touch pad
แผ่นรองสัมผัส จะเป็นแผนสี่เหลี่ยมที่วางอยู่หน้าแป้นพิมพ์ สามารถใช้นิ้ววาดเพื่อเลื่อนตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพเช่นเดียวกับเมาส์ (บีคอม [ม.ป.ป.])
ตัวอย่าง Touch pad
8.Trackball
ลูกกลมควบคุม จะเป็นลูกบอลเล็ก ๆ ซึ่งอาจวางอยู่หน้าจอในเนื้อที่ของแป้นพิมพ์ หรือเป็นอุปกรณ์ต่างหากเช่นเดียวกับเมาส์ เมื่อผู้ใช้หมุนลูกบอลก็จะเป็นการเลื่อนตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพ มีหลักการทำงานเช่นเดียวกับเมาส์ ซึ่งเป็นอุปกรณ์ตัวชี้อีกแบบหนึ่งที่ใช้งานกับคอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก จะมีลูกบอลยึดติดกับ Socket บนอุปกรณ์ แทนที่เราจะเคลื่อนที่ลูกบอล เราใช้ก็ใช้นิ้วกลิ้งลูกบอลแทน ดังแสดงในรูป ส่วนคอมพิวเตอร์ขนาดเล็กจะมี Track ball ติดตั้งมาพร้อมกับเครื่องอยู่บนคีย์บอร์ด (บีคอม [ม.ป.ป.]) ตัวอย่าง Trackball
9.Track Point
แท่งชี้ควบคุม จะเป็นแท่งพลาสติกเล็ก ๆ อยู่ตรงกลางแป้นพิมพ์ บังคับโดยใช้นิ้วหัวแม่มือ เพื่อเลื่อนตำแหน่งของตัวชี้ตำแหน่งบนจอภาพเช่นเดียวกับเมาส์ (บีคอม [ม.ป.ป.]) ตัวอย่าง Track Point
10.Wheel mouse
เมาส์ที่มีล้อหมุน ใช้สำหรับเลื่อนได้ (computer hope 1998-2006)

การดูแลรักษา
การเลื่อนเมาส์ไปมาบนโต๊ะที่มีฝุ่นละอองจับ ทำให้ฝุ่นละอองเหล่านั้นเข้าไปเกาะพันกับแกนภายในของเมาส์ เมื่อฝุ่นจับหนาทำให้แกนไม่ได้สัมผัสกับลูกบอลโดยตรง เมื่อเลื่อนเมาส์แกนจึงไม่ได้รับสัญญาณการเคลื่อนที่ของเมาส์ และมีผลทำให้พอยน์เตอร์ (pointer) บนจอภาพเคลื่อนที่ไม่ถูกต้องสอดคล้องกับการเคลื่อนที่ของเมาส์จริง (นอร์ตัน 2545 : 75)
การทำความสะอาดเมาส์ ให้ปิดเครื่องและถอดปลั๊กไฟออกให้หมดก่อนเมาส์ที่มีลูกบอลอยู่ด้านใน มักเป็นส่วนที่สะสมฝุ่น หากลูกบอลสกปรก จะทำให้ฝืด เมาส์เคลื่อนที่ลำบาก การทำความสะอาดต้องหงายตัวเมาส์ แล้วเปิดฝาครอบลูกบอลออก โดยการหมุนหรือกดฝาครอบ จากนั้นคว่ำเอาลูกบอลออกมา เช็ดคราบฝุ่นให้เรียบร้อยจึงใส่ลูกบอล แล้วปิดฝาครอบให้เหมือนเดิม และควรทำความสะอาดบ่อย ๆ (กองบรรณาธิการเว็บไซต์ arip.co.th และ thaimail.com. 2547 : 191-192)
สำหรับเมาส์แสง ให้ใช้คอตตอนบัดชุบแอลกอฮอล์เช็ดตรงที่ปล่อยแสงออกมา

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น